ราคาบอล ดูยังไง

ราคาบอล ออนไลน์ สอนวิธีดูราคาบอล อัตราการต่อรอง น่าเล่น ดูยังไง วิเคราะห์ พร้อมเปรียบเทียบราคาบอลล่าสุด อธิบายแบบเข้าใจง่ายๆ

อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือผู้มาพร้อมกับความสำเร็จ ในทุกที่ที่ไป

อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือผู้มาพร้อมกับความสำเร็จ ในทุกที่ที่ไป
อันโตนิโอ คอนเต้ ถือเป็นหนึ่งในกุนซือที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการฟุตบอลอิตาลี และล่าสุดได้สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งด้วยการพา นาโปลี คว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาล 2024/25 ซึ่งนับเป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 4 ของสโมสร และเป็นครั้งแรกในรอบสองปีหลังจากที่เคยคว้าแชมป์ในฤดูกาล 2022/23

คอนเต้ เกิดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ค.ศ. 1969 ที่เมืองเลชเช ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี เขาเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับสโมสรเลชเช ก่อนจะย้ายมาอยู่กับยูเวนตุสในปี 1991 และกลายเป็นตำนานของสโมสรจากการลงสนามกว่า 400 นัด พร้อมคว้าแชมป์เซเรีย อา 5 สมัย, ยูฟ่า คัพ และแชมเปียนส์ลีก ก่อนแขวนสตั๊ดในปี 2004 แล้วเข้าสู่เส้นทางสายโค้ชในทันที โดยเริ่มต้นกับทีมเล็ก ๆ อย่างอาเรซโซ่, บารี่ และอตาลันต้า

จุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพโค้ชของเขาเกิดขึ้นในปี 2011 เมื่อเขากลับมาคุมยูเวนตุสและเปลี่ยนทีมให้กลายเป็นมหาอำนาจอีกครั้ง โดยคว้าแชมป์เซเรีย อา 3 สมัยติดต่อกัน จากนั้นเขารับงานคุมทีมชาติอิตาลีในยูโร 2016 ซึ่งแม้จะไปได้เพียงรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่ผลงานก็ได้รับเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวาง ก่อนที่เขาตัดสินใจไปหาความท้าทายนอกประเทศด้วยการคุมเชลซีในปี 2016 และพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกตั้งแต่ฤดูกาลแรก ก่อนจะกลับมาคุมอินเตอร์ มิลานในปี 2019 และสิ้นสุดการรอคอย 11 ปีของสโมสรด้วยการพาทีมคว้าแชมป์เซเรีย อา ฤดูกาล 2020/21

หลังจากพาอินเตอร์ มิลาน คว้าแชมป์กัลโช เซเรีย อา ในฤดูกาล 2020/21 ซึ่งเป็นการหยุดยุคแห่งความยิ่งใหญ่ของยูเวนตุสที่ยาวนานถึง 9 ปี คอนเต้ก็สร้างความตกตะลึงให้กับแฟนบอลเมื่อเขาตัดสินใจอำลาทีมเพียงไม่กี่วันหลังจบฤดูกาล โดยสาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งกับฝ่ายบริหารเรื่องนโยบายการลดงบประมาณและการขายนักเตะคนสำคัญอย่าง อาชราฟ ฮาคิมี และ โรเมลู ลูกากู ที่เขามองว่าเป็นการลดความสามารถในการแข่งขันของทีม

ช่วงนั้น คอนเต้กลายเป็นกุนซือเนื้อหอม และตกเป็นข่าวกับหลายสโมสรในยุโรป ก่อนที่ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2021 เขาจะตอบรับข้อเสนอจาก ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ทีมดังจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แทนที่นูโน่ เอสปิริโต ซานโต ที่ถูกปลดกลางฤดูกาล โดยเซ็นสัญญาคุมทีมจนถึงปี 2023 พร้อมออปชั่นขยายเพิ่ม

การมาของคอนเต้เปลี่ยนแปลงสเปอร์สอย่างรวดเร็ว เขาใช้ระบบ 3-4-3 ที่ถนัด และช่วยยกระดับผลงานของนักเตะอย่างแฮร์รี เคน, ซน ฮึง-มิน และ เดยัน คูลูเซฟสกี้ จนพาทีมจบอันดับ 4 ในฤดูกาล 2021/22 ได้สิทธิ์กลับไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นความสำเร็จสำคัญของทีมในช่วงเวลานั้น

อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลถัดมา (2022/23) กลายเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก ทั้งจากปัญหาอาการบาดเจ็บของผู้เล่นหลัก ฟอร์มที่ไม่สม่ำเสมอ และบรรยากาศในทีมที่เริ่มตึงเครียด คอนเต้แสดงความไม่พอใจต่อฝ่ายบริหารและนักเตะต่อสาธารณะอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะในการแถลงข่าวที่เขาออกมาตำหนิ “ทัศนคติของผู้เล่น” อย่างรุนแรงหลังเสมอกับเซาแธมป์ตัน จนกลายเป็นจุดแตกหัก สเปอร์สจึงตัดสินใจแยกทางกับเขาในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2023 ก่อนหมดสัญญา

หลังจากนั้น คอนเต้กลับไปใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัวและไม่รับงานคุมทีมทันที เขายังถูกจับตามองว่าอาจกลับมาทำงานในอิตาลีอีกครั้ง จนกระทั่งในช่วงซัมเมอร์ปี 2024 เขาตัดสินใจรับตำแหน่งผู้จัดการทีมนาโปลี ซึ่งกำลังต้องการคนมาปลุกชีพทีมหลังจากจบอันดับที่ 10 ของตารางในฤดูกาลก่อนหน้า

คอนเต้เข้ามาเปลี่ยนโฉมนาโปลีอย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่แท็กติกและวินัย โดยยึดระบบที่เขาถนัดอย่าง 3-5-2 หรือ 3-4-2-1 ซึ่งให้อิสระแก่เกมริมเส้นและมิดฟิลด์ตัวกลาง เขาได้ตัวผู้เล่นใหม่เข้ามาเสริมทัพหลายคน ไม่ว่าจะเป็นสกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่เข้ามาเติมความดุดันในแดนกลาง, บิลลี่ กิลมอร์ ที่มีวิสัยทัศน์เกมที่ยอดเยี่ยม และ โรเมลู ลูกากู ที่กลับมาร่วมงานกับคอนเต้อีกครั้ง

ผลงานของนาโปลีภายใต้การคุมทีมของคอนเต้ดีขึ้นอย่างชัดเจน พวกเขาทำแต้มได้อย่างสม่ำเสมอและมีเกมรับที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลที่ทีมชนะติดต่อกันหลายนัด ทำให้คะแนนขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว และสุดท้ายมาเฉือนเอาชนะอินเตอร์ มิลานได้ในการลุ้นแชมป์แบบสุดระทึกจนถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่งนาโปลีเอาชนะกายารีไป 2-0 จากประตูของแม็คโทมิเนย์และลูกากู ส่งผลให้พวกเขาคว้าแชมป์กัลโช เซเรีย อา ฤดูกาล 2024/25 ไปครองได้สำเร็จ นับเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งที่ 4 ของสโมสร และเป็นครั้งแรกในรอบสองปี

นอกจากนี้ คอนเต้กลายเป็นกุนซือคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์กัลโช เซเรีย อา ได้กับสามสโมสร ได้แก่ ยูเวนตุส, อินเตอร์ มิลาน และนาโปลี ซึ่งเป็นสถิติที่น่าทึ่งและตอกย้ำถึงความสามารถในการปลุกปั้นทีมให้กลายเป็นแชมป์ได้ไม่ว่าจะอยู่กับสโมสรใดก็ตาม ด้วยสไตล์การคุมทีมที่จริงจัง เคร่งวินัย และเต็มไปด้วยพลังผลักดัน เขาคือหนึ่งในโค้ชระดับตำนานของวงการลูกหนังอิตาลีอย่างแท้จริง

หลังจบฤดูกาลนี้ อันโตนิโอ คอนเต้ ได้รับการยกย่องจากทั้งสื่อและแฟนบอลว่าเป็นคนที่พานาโปลีกลับมายืนอยู่บนจุดสูงสุดอีกครั้งในช่วงเวลาสำคัญของสโมสร และทำให้เขาขึ้นชื่อว่ากุนซือที่มาพร้อมกับความสำเร็จอย่างแท้จริง

Share: Facebook Twitter Linkedin

กระแสแรง! เปิดขายบัตรลูกยางโลก แฟนแห่จองตั๋วชม ตบสาวไทย เกลี้ยงทุกแมตช์

กระแสแรง! เปิดขายบัตรลูกยางโลก แฟนแห่จองตั๋วชม ตบสาวไทย เกลี้ยงทุกแมตช์
เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2568 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในงานแถลงข่าว ประเทศไทยได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 (FIVB Volleyball Women’s World Championship 2025) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการวอลเลย์บอลไทยที่มีการจัดการแข่งขันระดับโลก โดยมี นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ตลอดจนผู้สนับสนุน, เหล่านักกีฬาเข้าร่วม อย่างคึกคัก

นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ปี 2568 ประเทศไทยได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการวอลเลย์บอลไทย เป็นก้าวสำคัญที่เราได้มีโอกาสแสดงศักยภาพของประเทศไทยในหลายๆ ด้าน กระตุ้นการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ ที่จะได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพ เป็นเจ้าบ้านในการต้อนรับคณะนักกีฬา เจ้าหน้าที่ ของทีมที่จะเดินทางเข้ามาร่วมการแข่งขันจาก ทั่วโลกไปพร้อมกัน

สำหรับการเปิดจำหน่ายตั๋ว เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568) เริ่มเวลา 15.00 น ผ่านทางไทยทิกเก็ตเมเจอร์ โดยการจำหน่ายบัตรเข้าชม รอบแรกและรอบ 16 ทีมสุดท้าย เปิดจำหน่ายทั้งหมด 5 ราคา คือ 300 บาท, 600 บาท, 900 บาท, 2,800 บาท และ 4,000 บาท ส่วนรอบ 8 ทีมสุดท้าย เปิดจำหน่ายทั้งหมด 5 ราคา คือ 500 บาท, 800 บาท, 1,200 บาท, 2,800 บาท, 4,000 บาท ขณะที่รอบ ก่อนรองชนะเลิศ และ รอบชิงชนะเลิศ เปิดจำหน่าย 5 ราคา คือ 1,000 บาท, 1,500 บาท, 2,000 บาท, 2,800 บาท และ 4,000 บาท

ล่าสุดมีรายงานว่าตั๋วเข้าชมการแข่งขันเฉพาะแมตช์ของวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก กทม. ได้หมดลงทุกแมตช์ ทุกที่นั่งเรียบร้อย อย่างไรก็ตามตั๋วเข้าชมการแข่งขันของจังหวัดอื่นๆ ที่เป็นเจ้าภาพอย่าง ภูเก็ต, นครราชสีมา และ เชียงใหม่ ยังพอมีเหลืออยู่

สำหรับ การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม ถึงวันที่ 7 กันยายน 2568 โดยจะมีทีมวอลเลย์บอลหญิงระดับชาติจากทั่วทุกทวีปที่ผ่านการคัดเลือก จำนวน 32 ทีม โดยแบ่งออกเป็น 8 สาย ๆ ละ 4 ทีม โดนการแข่งขันใน รอบแรก จะมีการกระจายการแข่งขันไปยัง 4 เมืองหลักในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ, จังหวัดภูเก็ต ที่อาคารยิมเนเซียม 4,000 ที่นั่ง,จังหวัดนครราชสีมา ที่สนามชาติชายฮอลล์ และกรุงเทพมหานคร ที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก

Share: Facebook Twitter Linkedin

ภาค 5 ท้าเดือด! เสกสรร นัดบู๊แหลก เมืองไทย เสริมทัพศึกใหญ่ ONE ลุมพินี 114

ภาค 5 ท้าเดือด! เสกสรร นัดบู๊แหลก เมืองไทย เสริมทัพศึกใหญ่ ONE ลุมพินี 114
ONE เปิดโปรแกรมเดือดต่อเนื่องรับศึกนัดใหญ่ ONE ลุมพินี 114 ที่จะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 27 มิ.ย.นี้ โดยจัดให้ “เสกสรร อ.ขวัญเมือง” จอมบู๊สู้ไม่ถอย วัย 36 ปี จากนครศรีธรรมราช วัดแกร่ง “เมืองไทย พีเค.แสนชัย” มวยศอกดุดัน วัย 31 ปี จากบุรีรัมย์ ในกติกามวยไทย รุ่น 140 ป. ซึ่งจะถ่ายทอดสดไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก จากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เริ่มคู่แรก 19.30 น.

ทั้งคู่เคยเป็นคู่ปรับไม้เบื่อไม้เบากันมาตั้งแต่สมัยยังเป็นดาวบู๊ของการแข่งขันมวยไทย 5 ยก โดยเจอกันมาแล้ว 4 ครั้ง ซึ่งผลปรากฏว่า “เสกสรร” เก็บแต้มชนะคะแนนเอกฉันท์ “เมืองไทย” อย่างสนุกดุเดือดทุกครั้ง โดยครั้งนี้เป็นการโคจรกลับมาเจอกันหลังจากปะทะกันครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 6 ปี ก่อน ที่เวทีลุมพินี

ด้าน “เสกสรร” นั้นถ้าได้ขึ้นสังเวียนเมื่อไหร่ เรียกว่าได้ใจคนดูทุกครั้งด้วยลีลาการบู๊แหลกลาญสมฉายา “คนไม่ยอมคน” โดยตลอดกว่า 2 ปี ที่ผ่านมาที่ได้ชกกับ ONE เขาเก็บชัยชนะได้ถึง 10 ครั้ง จาก 12 ไฟต์ที่ลงแข่งขัน พร้อมคว้าโบนัสเข้ากระเป๋าถึง 6 ครั้ง รวมเป็นเงินสูงถึง 5,150,000 บาท (ห้าล้านหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท) แบบยังไม่รวมค่าตัว และมีแฟนมวยทั่วโลกเรียกร้องอยากดูผลงานของเขาอย่างต่อเนื่อง

“เสกสรร” ฝากผลงานครั้งล่าสุดในศึก ONE Fight Night 30 เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการสะดุดแพ้เป็นครั้งที่ 2 ในรายการของ ONE เมื่อโดนทาง “เอซา เทน พาว” จากสหรัฐอเมริกา แจกอาวุธชุดใหญ่เอาชนะทีเคโอยกสุดท้าย กลับมารอบนี้ “เสกสรร” พร้อมแล้วที่จะกู้ศรัทธาของแฟนมวยกลับมา ด้วยการจัดหนักย้ำชัยเหนือ “เมืองไทย” ให้ได้อีกครั้ง

ด้าน “เมืองไทย” ที่มีสไตล์การชกดุเด็ดเผ็ดมันเป็นที่ประทับใจของแฟนมวยไม่น้อยหน้า “เสกสรร” เปิดตัวตั้งแต่ศึกนัดปฐมฤกษ์ ONE ลุมพินี 1 เมื่อเดือน ม.ค.66 ผ่านมาแล้วกว่า 2 ปี เจ้าตัวทำผลงานเก็บชัยชนะไปได้ 5 ครั้ง จากทั้งหมด 8 ไฟต์ พร้อมรับโบนัส 350,000 บาท เข้ากระเป๋าถึง 6 ครั้ง ทำให้ยอดเงินเกินหลัก 2 ล้านบาทไปแล้วเรียบร้อย

ล่าสุด “เมืองไทย” โชว์ฮอตต่อเนื่องเก็บชัย 2 ไฟต์ติดได้สำเร็จ ด้วยการบุกหนักปิดเกมชนะทีเคโอ “อิบรากิม อับดุลเมชิดอฟ” จากรัสเซีย ได้ยกที่ 3 ในศึก ONE ลุมพินี 100 เมื่อ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ตอนนี้ “เมืองไทย” กลับมาอยู่ในช่วงมั่นใจเต็มร้อยอีกครั้ง โดยตั้งเป้าเอาชนะนักชกรุ่นพี่คนเก่ง “เสกสรร” ให้สำเร็จเพื่อปลดล็อกตัวเองหลังจากพ่ายรวดมาใน 4 ครั้งที่เจอกัน

ไฟต์นี้รับประกันความดุเดือดไม่น้อยหน้าการเจอกันใน 4 ครั้งแรก โดยต่างมีอาวุธหนักเป็นทีเด็ดพร้อมแลกเดือดทุกวินาทีที่ยืนเผชิญหน้ากันบนสังเวียน งานนี้ “เสกสรร” จะย้ำแค้น หรือ “เมืองไทย” จะตีตื้นเอาคืนได้สำเร็จ แฟนมวยทั้งประเทศห้ามพลาดชม!

แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมศึกใหญ่นัดนี้ในราคาพิเศษ เริ่มต้น 1,000 บาท ผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. รับชมการถ่ายทอดสดทาง ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น. รวมทั้งติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของศึกนี้ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เว็บไซต์ ONEFC.com อินสตาแกรม ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH

Share: Facebook Twitter Linkedin

จ้าว ซินถง หวังคว้าแชมป์สนุกเกอร์ในบ้านเกิด แม้ยังถูกแบนจากการแข่งในจีน

จ้าว ซินถง หวังคว้าแชมป์สนุกเกอร์ในบ้านเกิด แม้ยังถูกแบนจากการแข่งในจีน
จ้าว ซินถง เจ้าของแชมป์โลกสนุกเกอร์คนล่าสุดจากประเทศจีน เผยความฝันในการคว้าแชมป์รายการใหญ่ในบ้านเกิด แต่กลับยังไม่สามารถลงแข่งในจีนได้เนื่องจากยังคงติดโทษแบน

นักสอยคิววัย 28 ปี กลายเป็นนักสนุกเกอร์จากเอเชียคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าแชมป์โลกได้ที่ ครูซิเบิล เธียเตอร์ เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เขายังถูกสมาคมสนุกเกอร์จีน (Chinese Billiards and Snooker Association – CBSA) สั่งห้ามแข่งขันภายในประเทศจนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2025

การคว้าแชมป์โลกครั้งนี้ถือเป็นทัวร์นาเมนต์ระดับอาชีพครั้งที่สองของจ้าวหลังกลับมาจากการถูกพักแข่ง เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีล็อกผลการแข่งขันซึ่งสืบเนื่องมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2023 โดยในการสอบสวนของ สมาคมสนุกเกอร์อาชีพโลก (World Professional Billiards and Snooker Association – WPBSA) จ้าวถูกพบว่ามีส่วนในการวางเดิมพันกับแมตช์ที่ถูกล็อกผล แม้จะไม่ได้เป็นผู้ลงมือล็อกผลเองก็ตาม ส่งผลให้โทษแบนเดิม 30 เดือนถูกลดลงเหลือ 20 เดือน ซึ่งเขาสามารถกลับมาแข่งขันได้ในเวทีโลก แต่ทาง CBSA ยังคงยึดโทษแบนเดิม ทำให้เขาไม่สามารถแข่งขันในรายการใดๆ ที่จัดขึ้นในประเทศจีนได้จนกว่าจะพ้นโทษในปี 2025

จ้าวเปิดใจหลังคว้าแชมป์โลกว่า เขาต้องการใช้โอกาสในฤดูกาลหน้าสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการคว้าแชมป์รายการในแผ่นดินเกิดของตนให้ได้เป็นครั้งแรก

“ยังไม่มีนักสนุกเกอร์ชาวจีนหรือชาวเอเชียคนใดสามารถปักเครื่องหมาย Triple Crown ไว้บนเสื้อได้เลย” จ้าวให้สัมภาษณ์กับ South China Morning Post

“ผมคิดว่านี่คือหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของผม ผมจะพยายามเล่นให้ดีในทุกแมตช์ ทุกทัวร์นาเมนต์ แต่การได้ชูถ้วยแชมป์ในประเทศจีนนั้น…เป็นสิ่งที่ผมยังไม่เคยทำได้เลย”

จ้าวยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เขาตั้งตารอคอยการได้ลงแข่งขันในรายการ World Grand Prix ที่ฮ่องกงในปีหน้า และคาดหวังว่าจะคว้าแชมป์รายการนั้นเช่นกัน โดยระบุว่า “หากได้แชมป์ ผมคงมีความสุขมาก”

อย่างไรก็ดี ข่าวดีสำหรับจ้าวคือการที่โทษแบนในจีนจะสิ้นสุดลงก่อนเริ่มฤดูกาลแข่งขันใหม่ ซึ่งหนึ่งในรายการแรกของปฏิทินสนุกเกอร์คือ Shanghai Masters ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม ถึง 3 สิงหาคม 2025 ทำให้เขามีโอกาสสานฝันในการคว้าแชมป์รายการบนแผ่นดินจีนได้ทันที

ตั้งแต่ปี 2016 จ้าวได้ย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งเขาเคยกล่าวว่าการใช้ชีวิตที่นั่นช่วยพัฒนาฝีมือและจิตใจของเขาในฐานะนักกีฬาอาชีพอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ด้วยการเป็นนักสนุกเกอร์ชาวจีนคนแรกที่คว้าแชมป์โลก จ้าวเชื่อว่าความสำเร็จของเขาจะส่งผลกระทบเชิงบวกอย่างมหาศาลต่อวงการสนุกเกอร์ในประเทศบ้านเกิด

จ้าว ซินถง หรือที่แฟนๆ รู้จักในฉายา “พายุไซโคลน” จึงไม่ใช่แค่แชมป์โลกคนล่าสุด แต่เขากำลังจะกลายเป็นแรงบันดาลใจครั้งใหม่ของคนรุ่นหลังในวงการสอยคิวแดนมังกร และเมื่อวันหนึ่งเขากลับมาลงแข่งในจีนได้อีกครั้ง แฟนกีฬาทั้งประเทศก็คงตั้งตารอชมโมเมนต์ที่เขาชูถ้วยแชมป์ต่อหน้าครอบครัวและกองเชียร์ในบ้านเกิด

Share: Facebook Twitter Linkedin

ตำรวจได้ไฟเขียว เดินหน้าสอบสวนเหตุชายคลั่งขับรถไล่ชนแฟนบอลลิเวอร์พูล

ตำรวจได้ไฟเขียว เดินหน้าสอบสวนเหตุชายคลั่งขับรถไล่ชนแฟนบอลลิเวอร์พูล
การเฉลิมฉลองแชมป์พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2024-25 ของ ลิเวอร์พูล ต้องจบลงแบบกระทันเนื่องจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ซึ่งในเวลานี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงทำหน้าที่ในการสืบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

ก่อนหน้านี้ลิเวอร์พูลได้จัดขบวนพาเหรดแห่ถ้วยแชมป์พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ ไปทั่วเมืองลิเวอร์พูล รวมเป็นเส้นทางประมาณ 16 กิโลเมตร

ซึ่งสองข้างทางตลอดทั้งเส้นทางนั้นได้มีเหล่าสาวกเดอะค็อปออกมาร่วมฉลองกับรถบัสเปิดประทุนที่มีนักเตะและแชมป์พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ อยู่ด้านบนกันแบบสุดเหวี่ยง

และมีการเปิดเผยเป็นตัวเลขว่ามีแฟนบอลมารวมตัวกันในการฉลองแชมป์พรีเมียร์ ลีก ของ ลิเวอร์พูล เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม กว่า 1.5 ล้านคน

อย่างไรก็ตามในช่วงที่ขบวนพาเหรดกำลังจะเคลื่อนที่เข้าสู่จุดสุดท้ายในการแห่ฉลองแชมบริเวณ เวเตอร์ สตรีต นั้น กับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อมีชายคนหนึ่งขับรถไล่ชนเหล่าแฟนบอลลิเวอร์พูล ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

และจากสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ทาง อาร์เนอ ชล็อต เทรนเนอร์ของ ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องตัดสินใจยกเลิกกิจกรรมอื่น ๆ ที่ได้วางเอาไว้ในวันดังกล่าว

ล่าสุดสำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับไฟเขียวให้ขยายเวลาในการสืบสวนและสอบปากคำชายคนดังกล่าวที่ถูกจับกุมในข้อหาพยายามฆ่าเนื่องจากเขาได้ขับรถไล่ชนกลุ่มฝูงชนที่เป็นแฟนบอลลิเวอร์พูลระหว่างการฉลองแชมป์ของทีม

ขณะที่เรื่องตัวเลขของผู้ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ มีการเปิดเผยว่ายังมีอีก 7 คน ที่ยังต้องอยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาล จากจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 79 คน

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของเมอร์ซีไซด์ระบุว่าพวกเขาได้รับไฟเขียวในการสอบปากคำชายวัย 53 ปี ที่มาจากทางเวสต์ดาร์บีรายนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ชายคนดังกล่าวถูกควบคุมตัวเอาไว้ในข้อหาขับรถประมาทและขับรถขณะไม่มีสมรรถภาพเนื่องจากเสพยาเสพติดอีกด้วย

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดเผยว่ารถคันดังกล่าวของชายรายนี้ได้หลุดเข้าไปในบริเวณการฉลองแชมป์ของลิเวอร์พูลซึ่งมีการปิดถนนเอาไว้ด้วยการที่เขาขับรถตามรถพยายาลที่จำเป็นเต้องเข้าไปช่วยเหลือแฟนบอลหลายหนึ่งที่คาดว่าจะมีภาวะจากโรคหัวใจ

และเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า ตอนนี้พวกเขาได้คุยกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้นอีก 14 คนแล้ว และจะยังคงทำหน้าที่สืบสวนถึงเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

Share: Facebook Twitter Linkedin

คีร์กิออส ส่อแขวนแร็กเกตหลังอาการบาดเจ็บหัวเข่ากำเริบ

คีร์กิออส ส่อแขวนแร็กเกตหลังอาการบาดเจ็บหัวเข่ากำเริบ
นิก คีร์กิออส อดีตนักเทนนิสมือ 13 โลกจากออสเตรเลียอาจจะตัดสินใจแขวนแร็กเกตหลังอาการบาดเจ็บที่ข้อมือกำเริบจนส่งผลให้เจ้าตัวชวดลงแข่งขันในศึกแกรนด์สแลมเฟรนช์ โอเพ่น 2025

โดย คีร์กิออส รองแชมป์แกรนด์สแลมวิมเบิลดัน 2022 ต้องพลาดการลงแข่งขันทั้งฤดูกาล 2023 และ2024 เนื่องจากต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวเข่า และข้อมือ

และดูเหมือนว่าอาการบาดเจ็บที่ข้อมือจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเขาเนื่องจาก คีร์กิออส ต้องใช้เวลาพักฟื้นเกือบปี กว่าจะกลับมาลงสนามได้ในที่สุดเมื่อเริ่มต้นฤดูกาล 2025

ตลอดช่วงที่ผ่านมาแร็กเกตวัย 30 ปีไม่มีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บรบกวนตลอดการลงสนาม 4 ทัวร์นาเมนต์จนถึงเดือน มี.ค.

ทำให้ก่อนหน้านี้ คีร์กิออส มีแผนที่จะลงชิงชัยในแกรนด์สแลมเฟรนช์ โอเพ่น 2025 ในประเภทชายคู่กับ จอร์แดน ธอมป์สัน แต่ในขณะที่เตรียมตัวสำหรับการแข่งขัน โรลังด์ การ์รอส อาการบาดเจ็บที่หัวเข่าของนักหวดชาวออสเตรเลียก็กลับมาอีกครั้ง และทำให้ต้องถอนตัวจากทัวร์นาเมนต์นี้

ล่าสุด ธอมป์สัน เผยว่า คีร์กิออส แย้มด้วยตัวเองว่า อาจจะตัดสินใจอำลาวงการเนื่องจากไม่สามารถเล่นด้วยแล้วเจอกับอาการบาดเจ็บรบกวนแบบนี้ได้ “นิก รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้เล่นที่นี่ เขาส่งข้อความหาผมทุกสัปดาห์เพื่อถามว่า คุณพร้อมสำหรับการแข่งขันหรือยัง และผมรู้ว่า เขากลับมาบ้านในออสเตรเลียเพื่อฝึกซ้อมบนคอร์ตดิน (แต่) เมื่อไม่กี่วันก่อน นิก บอกผมว่า เขาได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า ดังนั้นน่าเสียดายที่เขาไม่สามารถลงเล่นที่นี่ได้”

“เขาดูแย่ ผมหมายถึง เขาบอกผมว่า เขาจะทนกับอาการบาดเจ็บเหล่านี้ได้อีกแค่ไหน ผมสงสารเขา เพราะถึงแม้เขาจะพูดในสื่อ แต่ผมคิดว่า เขารักการเล่นเทนนิส ดังนั้นจึงน่าผิดหวังที่เขาไม่สามารถลงเล่นในสนามได้”

ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานเพิ่มเติมว่า คีร์กิออส ได้รับบาดเจ็บหนักเพียงใด และจะสามารถหายทันลงเล่นในช่วงฤดูกาลคอร์ตหญ้าที่จะเริ่มขึ้นหลังจากเฟรนช์ โอเพ่น 1 สัปดาห์คือในรายการสตุ๊ตการ์ต โอเพ่น 2025 ขณะเดียวกัน ธอมป์สันจับคู่กับ เจสัน คูเบลอร์ ในประเภทชายคู่เฟรนช์โอเพ่น และพวกเขาแพ้ในรอบแรก

Share: Facebook Twitter Linkedin

ทีมวัดน้อยฯ ยกทัพกวาด 3 แชมป์ – บาส 3×3 ออลไทยแลนด์ที่ตรัง

ทีมวัดน้อยฯ ยกทัพกวาด 3 แชมป์ - บาส 3×3 ออลไทยแลนด์ที่ตรัง
ศึกทีโอเอ 3×3 ออลไทยแลนด์ สนาม 3 ลุยปักษ์ใต้ จ.ตรังสุดคึกคัก นักชูตพุ่ง 176 ทีม รวมผู้ติดตามนับพันส่งเสียงเชียร์เสียงกรี๊ดสนั่นโดมอเนกประสงค์วิทยาลัยเทคนิคตรัง ส่วนผลการแข่งขันมันสะเด่าทุกรุ่น ประเภทหญิง โรงเรียนดังวัดน้อยนพคุณขนทัพใหญ่ประกาศศักดากวาดรวด 3 รุ่น ส่วนแชมป์รุ่นอื่นๆ กระจายกันไปแทบทั่วทุกจังหวัด

การแข่งขันบาสเกตบอลรายการ ทีโอเอ 3×3 ออลไทยแลนด์ 2025 รายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย ร่วมกับบริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จัดการแข่งขันทั่วประเทศรวม 10 สนาม ย่างเข้าสู่สนามที่ 3 ร่วมกับส่วนราชการ จ.ตรัง จัดขึ้น ณ โดมอเนกประสงค์ วิทยาลัยเทคนิคตรัง

โดยปีนี้เพิ่มเติมความยิ่งใหญ่ด้วยการเพิ่มรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เปิดเวทีให้กลุ่มนักบาสปัญญาชนขึ้นมาโดยเฉพาะ สนามนี้ได้รับเกียรติจาก พันจ่าโทอนันต์ บุญสำราญ รองผู้ว่าฯ จ.ตรัง ร่วมด้วย นายจักรพงษ์ รัชนีกุล ปลัดจังหวัด วินัย ทองรัตน์ นายกสมาคมกีฬาจังหวัดตรัง และหัวหน้าหน่วยราชการจำนวนมาก ร่วมพิธี

ด้านการแข่งขันในสนามที่สามนี้ แข่งขันกันเข้มข้นดุเดือดทุกรุ่น แชมป์กระจายกันไปแทบทุกจังหวัด ทั้ง กระบี่ สงขลานครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ชุมพร ทั้งนี้ มีทีมจากกทม ได้แก่ เบ็ญจมราชานุสรณ์, สวนกุหลาบ ทีมเก่งในประเภทเยาวชนชาย และ วัดน้อยนพคุณ ทีมดังประเภทหญิง ซึ่งก็ไม่พลาด แบ่งแชมป์กันไปโดยเฉพาะวัดน้อยฯ นำมาโดยโค้ชใหญ่ อ.พงษ์ศักดิ์ แก้วใจดี กวาดไป 3 รุ่น 14 ปี 16 ปีและ 18 ปี ดังผลการแข่งขันดังนี้

รุ่น 12 ผสม ชนะเลิศ จารุวัฒนานุกูล ชนะ Nasan B 17 – 6 ชิงที่ 3 ลูกรัก KickOff ชนะ DEK TRANG 12 – 10

รุ่น 14 ชาย ชนะเลิศ สตรีทุ่งสง ชนะ สวนศรี 15 – 7 ชิงที่ 3 Yorsor ชนะ ลูกรัก KickOff 12 – 9, ทีมหญิง ชนะเลิศ น้อยนพคุณ ชนะ ลูกรัก KickOff 17 – 11 ชิงที่ 3 ท่าศาลา A ชนะ ท่าศาลา B 7 – 6

รุ่น 16 ชาย ชนะเลิศ วัยเรียน ชนะ BBN 12 – 10 ชิงที่ 3 SUANKULARB ชนะ Benjama 13 – 12, ทีมหญิง ชนะเลิศ น้อยนพคุณ ชนะ ท่าศาลา A 22 – 4 ชิงที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดอุปนันทาราม ชนะ PKW x SPK 10 – 3

รุ่น 18 ชาย ชนะเลิศ เบญจมราชานุสรณ์ ชนะ ภูเก็ตวิทยาลัย 11 – 8 ชิงที่ 3 SK Academy ชนะ ลูกรัก KickOff 13-12, ทีมหญิง ชนะเลิศ น้อยนพคุณ ชนะ สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดระนอง 21-9 ชิงที่ 3 ลูกรัก KickOff ชนะ CJFI 13 – 12

รุ่น 23 ชาย ชนะเลิศ สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดกระบี่ ชนะ ต้นพู 21-4 ชิงที่ 3 Thasala Thunder ชนะ เทเลทับปี้ 21 – 16

รุ่น ปชช ชาย ชนะเลิศ บ้านปู่ก่อสร้าง ชนะ บ้านสวนเขาแจ่ม 17 – 15 ชิงที่ 3 สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดพังงา A ชนะ BLACKJACK 21 – 11, ปชช หญิง ชนะเลิศ KOLEK ชนะสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี 17-11, ชิงที่ 3 All Star ชนะ ซ้อทำแต้ม 11 – 9

สำหรับสนามที่ 4 ของ TOA 3×3 All Thailand 2025 จะแข่งขันที่ ยิมเนเซียมมหาวิทยาลัยขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 5-6 มิถุนายนนี้ เปิดรับสมัครแล้ว

Share: Facebook Twitter Linkedin

ตำรวจได้ไฟเขียว เดินหน้าสอบสวนเหตุชายคลั่งขับรถไล่ชนแฟนบอลลิเวอร์พูล

ตำรวจได้ไฟเขียว เดินหน้าสอบสวนเหตุชายคลั่งขับรถไล่ชนแฟนบอลลิเวอร์พูล
การเฉลิมฉลองแชมป์พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2024-25 ของ ลิเวอร์พูล ต้องจบลงแบบกระทันเนื่องจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ซึ่งในเวลานี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงทำหน้าที่ในการสืบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

ก่อนหน้านี้ลิเวอร์พูลได้จัดขบวนพาเหรดแห่ถ้วยแชมป์พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ ไปทั่วเมืองลิเวอร์พูล รวมเป็นเส้นทางประมาณ 16 กิโลเมตร

ซึ่งสองข้างทางตลอดทั้งเส้นทางนั้นได้มีเหล่าสาวกเดอะค็อปออกมาร่วมฉลองกับรถบัสเปิดประทุนที่มีนักเตะและแชมป์พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ อยู่ด้านบนกันแบบสุดเหวี่ยง

และมีการเปิดเผยเป็นตัวเลขว่ามีแฟนบอลมารวมตัวกันในการฉลองแชมป์พรีเมียร์ ลีก ของ ลิเวอร์พูล เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม กว่า 1.5 ล้านคน

อย่างไรก็ตามในช่วงที่ขบวนพาเหรดกำลังจะเคลื่อนที่เข้าสู่จุดสุดท้ายในการแห่ฉลองแชมบริเวณ เวเตอร์ สตรีต นั้น กับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อมีชายคนหนึ่งขับรถไล่ชนเหล่าแฟนบอลลิเวอร์พูล ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

และจากสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ทาง อาร์เนอ ชล็อต เทรนเนอร์ของ ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องตัดสินใจยกเลิกกิจกรรมอื่น ๆ ที่ได้วางเอาไว้ในวันดังกล่าว

ล่าสุดสำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับไฟเขียวให้ขยายเวลาในการสืบสวนและสอบปากคำชายคนดังกล่าวที่ถูกจับกุมในข้อหาพยายามฆ่าเนื่องจากเขาได้ขับรถไล่ชนกลุ่มฝูงชนที่เป็นแฟนบอลลิเวอร์พูลระหว่างการฉลองแชมป์ของทีม

ขณะที่เรื่องตัวเลขของผู้ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ มีการเปิดเผยว่ายังมีอีก 7 คน ที่ยังต้องอยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาล จากจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 79 คน

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของเมอร์ซีไซด์ระบุว่าพวกเขาได้รับไฟเขียวในการสอบปากคำชายวัย 53 ปี ที่มาจากทางเวสต์ดาร์บีรายนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ชายคนดังกล่าวถูกควบคุมตัวเอาไว้ในข้อหาขับรถประมาทและขับรถขณะไม่มีสมรรถภาพเนื่องจากเสพยาเสพติดอีกด้วย

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดเผยว่ารถคันดังกล่าวของชายรายนี้ได้หลุดเข้าไปในบริเวณการฉลองแชมป์ของลิเวอร์พูลซึ่งมีการปิดถนนเอาไว้ด้วยการที่เขาขับรถตามรถพยายาลที่จำเป็นเต้องเข้าไปช่วยเหลือแฟนบอลหลายหนึ่งที่คาดว่าจะมีภาวะจากโรคหัวใจ

และเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า ตอนนี้พวกเขาได้คุยกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้นอีก 14 คนแล้ว และจะยังคงทำหน้าที่สืบสวนถึงเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

Share: Facebook Twitter Linkedin

คีร์กิออส ส่อแขวนแร็กเกตหลังอาการบาดเจ็บหัวเข่ากำเริบ

คีร์กิออส ส่อแขวนแร็กเกตหลังอาการบาดเจ็บหัวเข่ากำเริบ
นิก คีร์กิออส อดีตนักเทนนิสมือ 13 โลกจากออสเตรเลียอาจจะตัดสินใจแขวนแร็กเกตหลังอาการบาดเจ็บที่ข้อมือกำเริบจนส่งผลให้เจ้าตัวชวดลงแข่งขันในศึกแกรนด์สแลมเฟรนช์ โอเพ่น 2025

โดย คีร์กิออส รองแชมป์แกรนด์สแลมวิมเบิลดัน 2022 ต้องพลาดการลงแข่งขันทั้งฤดูกาล 2023 และ2024 เนื่องจากต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวเข่า และข้อมือ

และดูเหมือนว่าอาการบาดเจ็บที่ข้อมือจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเขาเนื่องจาก คีร์กิออส ต้องใช้เวลาพักฟื้นเกือบปี กว่าจะกลับมาลงสนามได้ในที่สุดเมื่อเริ่มต้นฤดูกาล 2025

ตลอดช่วงที่ผ่านมาแร็กเกตวัย 30 ปีไม่มีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บรบกวนตลอดการลงสนาม 4 ทัวร์นาเมนต์จนถึงเดือน มี.ค.

ทำให้ก่อนหน้านี้ คีร์กิออส มีแผนที่จะลงชิงชัยในแกรนด์สแลมเฟรนช์ โอเพ่น 2025 ในประเภทชายคู่กับ จอร์แดน ธอมป์สัน แต่ในขณะที่เตรียมตัวสำหรับการแข่งขัน โรลังด์ การ์รอส อาการบาดเจ็บที่หัวเข่าของนักหวดชาวออสเตรเลียก็กลับมาอีกครั้ง และทำให้ต้องถอนตัวจากทัวร์นาเมนต์นี้

ล่าสุด ธอมป์สัน เผยว่า คีร์กิออส แย้มด้วยตัวเองว่า อาจจะตัดสินใจอำลาวงการเนื่องจากไม่สามารถเล่นด้วยแล้วเจอกับอาการบาดเจ็บรบกวนแบบนี้ได้ “นิก รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้เล่นที่นี่ เขาส่งข้อความหาผมทุกสัปดาห์เพื่อถามว่า คุณพร้อมสำหรับการแข่งขันหรือยัง และผมรู้ว่า เขากลับมาบ้านในออสเตรเลียเพื่อฝึกซ้อมบนคอร์ตดิน (แต่) เมื่อไม่กี่วันก่อน นิก บอกผมว่า เขาได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า ดังนั้นน่าเสียดายที่เขาไม่สามารถลงเล่นที่นี่ได้”

“เขาดูแย่ ผมหมายถึง เขาบอกผมว่า เขาจะทนกับอาการบาดเจ็บเหล่านี้ได้อีกแค่ไหน ผมสงสารเขา เพราะถึงแม้เขาจะพูดในสื่อ แต่ผมคิดว่า เขารักการเล่นเทนนิส ดังนั้นจึงน่าผิดหวังที่เขาไม่สามารถลงเล่นในสนามได้”

ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานเพิ่มเติมว่า คีร์กิออส ได้รับบาดเจ็บหนักเพียงใด และจะสามารถหายทันลงเล่นในช่วงฤดูกาลคอร์ตหญ้าที่จะเริ่มขึ้นหลังจากเฟรนช์ โอเพ่น 1 สัปดาห์คือในรายการสตุ๊ตการ์ต โอเพ่น 2025 ขณะเดียวกัน ธอมป์สันจับคู่กับ เจสัน คูเบลอร์ ในประเภทชายคู่เฟรนช์โอเพ่น และพวกเขาแพ้ในรอบแรก

Share: Facebook Twitter Linkedin

ทีมวัดน้อยฯ ยกทัพกวาด 3 แชมป์ – บาส 3×3 ออลไทยแลนด์ที่ตรัง

ทีมวัดน้อยฯ ยกทัพกวาด 3 แชมป์ - บาส 3×3 ออลไทยแลนด์ที่ตรัง
ศึกทีโอเอ 3×3 ออลไทยแลนด์ สนาม 3 ลุยปักษ์ใต้ จ.ตรังสุดคึกคัก นักชูตพุ่ง 176 ทีม รวมผู้ติดตามนับพันส่งเสียงเชียร์เสียงกรี๊ดสนั่นโดมอเนกประสงค์วิทยาลัยเทคนิคตรัง ส่วนผลการแข่งขันมันสะเด่าทุกรุ่น ประเภทหญิง โรงเรียนดังวัดน้อยนพคุณขนทัพใหญ่ประกาศศักดากวาดรวด 3 รุ่น ส่วนแชมป์รุ่นอื่นๆ กระจายกันไปแทบทั่วทุกจังหวัด

การแข่งขันบาสเกตบอลรายการ ทีโอเอ 3×3 ออลไทยแลนด์ 2025 รายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย ร่วมกับบริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จัดการแข่งขันทั่วประเทศรวม 10 สนาม ย่างเข้าสู่สนามที่ 3 ร่วมกับส่วนราชการ จ.ตรัง จัดขึ้น ณ โดมอเนกประสงค์ วิทยาลัยเทคนิคตรัง

โดยปีนี้เพิ่มเติมความยิ่งใหญ่ด้วยการเพิ่มรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เปิดเวทีให้กลุ่มนักบาสปัญญาชนขึ้นมาโดยเฉพาะ สนามนี้ได้รับเกียรติจาก พันจ่าโทอนันต์ บุญสำราญ รองผู้ว่าฯ จ.ตรัง ร่วมด้วย นายจักรพงษ์ รัชนีกุล ปลัดจังหวัด วินัย ทองรัตน์ นายกสมาคมกีฬาจังหวัดตรัง และหัวหน้าหน่วยราชการจำนวนมาก ร่วมพิธี

ด้านการแข่งขันในสนามที่สามนี้ แข่งขันกันเข้มข้นดุเดือดทุกรุ่น แชมป์กระจายกันไปแทบทุกจังหวัด ทั้ง กระบี่ สงขลานครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ชุมพร ทั้งนี้ มีทีมจากกทม ได้แก่ เบ็ญจมราชานุสรณ์, สวนกุหลาบ ทีมเก่งในประเภทเยาวชนชาย และ วัดน้อยนพคุณ ทีมดังประเภทหญิง ซึ่งก็ไม่พลาด แบ่งแชมป์กันไปโดยเฉพาะวัดน้อยฯ นำมาโดยโค้ชใหญ่ อ.พงษ์ศักดิ์ แก้วใจดี กวาดไป 3 รุ่น 14 ปี 16 ปีและ 18 ปี ดังผลการแข่งขันดังนี้

รุ่น 12 ผสม ชนะเลิศ จารุวัฒนานุกูล ชนะ Nasan B 17 – 6 ชิงที่ 3 ลูกรัก KickOff ชนะ DEK TRANG 12 – 10

รุ่น 14 ชาย ชนะเลิศ สตรีทุ่งสง ชนะ สวนศรี 15 – 7 ชิงที่ 3 Yorsor ชนะ ลูกรัก KickOff 12 – 9, ทีมหญิง ชนะเลิศ น้อยนพคุณ ชนะ ลูกรัก KickOff 17 – 11 ชิงที่ 3 ท่าศาลา A ชนะ ท่าศาลา B 7 – 6

รุ่น 16 ชาย ชนะเลิศ วัยเรียน ชนะ BBN 12 – 10 ชิงที่ 3 SUANKULARB ชนะ Benjama 13 – 12, ทีมหญิง ชนะเลิศ น้อยนพคุณ ชนะ ท่าศาลา A 22 – 4 ชิงที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดอุปนันทาราม ชนะ PKW x SPK 10 – 3

รุ่น 18 ชาย ชนะเลิศ เบญจมราชานุสรณ์ ชนะ ภูเก็ตวิทยาลัย 11 – 8 ชิงที่ 3 SK Academy ชนะ ลูกรัก KickOff 13-12, ทีมหญิง ชนะเลิศ น้อยนพคุณ ชนะ สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดระนอง 21-9 ชิงที่ 3 ลูกรัก KickOff ชนะ CJFI 13 – 12

รุ่น 23 ชาย ชนะเลิศ สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดกระบี่ ชนะ ต้นพู 21-4 ชิงที่ 3 Thasala Thunder ชนะ เทเลทับปี้ 21 – 16

รุ่น ปชช ชาย ชนะเลิศ บ้านปู่ก่อสร้าง ชนะ บ้านสวนเขาแจ่ม 17 – 15 ชิงที่ 3 สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดพังงา A ชนะ BLACKJACK 21 – 11, ปชช หญิง ชนะเลิศ KOLEK ชนะสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี 17-11, ชิงที่ 3 All Star ชนะ ซ้อทำแต้ม 11 – 9

สำหรับสนามที่ 4 ของ TOA 3×3 All Thailand 2025 จะแข่งขันที่ ยิมเนเซียมมหาวิทยาลัยขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 5-6 มิถุนายนนี้ เปิดรับสมัครแล้ว

Share: Facebook Twitter Linkedin